คุณภาพข้าว
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นอกจากนี้ความนิยมในการบริโภคข้าวก็เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินคุณภาพข้าว ในการค้ามักพิจารณาจากคุณลักษณะทางกายภาพเป็นหลัก เนื่องจากเป็นสิ่งที่ปรากฏเด่นชัด ดังนั้นคุณภาพข้าวแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
|
วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557
คุณภาพของข้าว
การเก็บเกี่ยว
ระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม คือ 28-30 วัน หลังข้าวออกดอก การเก็บเกี่ยวในระยะนี้ทำให้ได้ข้าวที่มีคุณภาพการสีดี ถ้าเก็บเกี่ยวเร็วหรือช้าเกินไปมีผลต่อคุณภาพเมล็ด คือ
- การเก็บเกี่ยวเร็วเกินไป
1. เมล็ดข้าวน้ำหนักเบา การสะสมแป้งไม่เต็มที่
2. ข้าวมีความชื้นสูง ถ้าลดความชื้นล่าช้า ทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ มีจุลินทรีย์เข้าทำลาย
3. คุณภาพการสีต่ำได้ข้าวเต็มเมล็ดและต้นข้าวต่ำ เมล็ดยังเขียว อ่อน มีข้าวหักและป่น
ข้าวเขียวหรือข้าวอ่อน
- การเก็บเกี่ยวช้าเกินไป
1. สูญเสียผลผลิตข้าว เพราะข้าวแห้งกรอบ ร่วงหล่นในนา
2. นก หนู และแมลง เข้าทำลาย3. คุณภาพการสีต่ำ ได้ข้าวเต็มเมล็ดและต้นข้าวต่ำ เพราะเมล็ดกรอบและมีรอยแตกร้าว
4. กรณีรวงข้าวแช่น้ำ ทำให้เกิดเมล็ดงอก
เมล็ดมีรอยแตกร้าว
|
เมล็ดงอก
|
วิธีการเก็บเกี่ยว
- เก็บเกี่ยวโดยแรงงานคน :ใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวนาน ขาดแคลนแรงงาน และค่าจ้างสูง
- เก็บเกี่ยวโดยเครื่องเกี่ยวนวด : ใช้เวลาเก็บเกี่ยวเร็ว แต่ข้าวมีความชื้นสูงประมาณ 25-30%
การใช้สารเคมีกำจัดหนูระหว่างการปลูกข้าวไร่
การใช้สารเคมีกำจัดหนูระหว่างการปลูกข้าวไร่
หลังจากใช้สารเคมีกำจัดหนูประเภทออกฤทธิ์เร็วไปแล้วประมาณ
3 – 4 สัปดาห์ คือเมื่อถึงระยะที่ตั้งตัวได้แล้ว
ให้ใช้สารเคมีกำจัดหนูประเภทออกฤทธิ์ช้า เช่น คลีแร็ตหรือราคูมิน
ซึ่งเป็นเหยื่อพิษสำเร็จรูปในก้อนขี้ผึ้ง ก้อนละประมาณ 5 กรัม
หรือที่ผสมใส่ถุงพลาสติกขนาดเล็กถุงละประมาณ 15 กรัม
นำเหยื่อพิษสำเร็จรูปนี้ไปวางตามแหล่งที่พบร่องรอยของหนูและในแปลงข้าวไร่
โดยแต่ละก้อนหรือแต่ละถุงห่างกันประมาณ 4 – 5
เมตร และให้วางเหยื่อพิษดังกล่าวนี้เดือนละ 1 ครั้งก็เพียงพอแก่การควบคุมประชากรของหนูได้ดี
การใช้สารเคมีกำจัดหนูก่อนการปลูกข้าวไร่
การใช้สารเคมีกำจัดหนูก่อนการปลูกข้าวไร่
เนื่องจากหนูเป็นสัตว์ศัตรูข้าวที่ค่อนข้างฉลาด
ดังนั้นก่อนการปลูกข้าวไร่ประมาณ 2 สัปดาห์ จึงควรใช้สารเคมีกำจัดหนู
เพื่อลดประชากรของหนูที่มีอยู่มากให้เหลือน้อยลงมากที่สุด
โดยการใช้สารเคมีประเภทออกฤทธิ์เร็วซิงค์ฟอสไฟด์ผสมกับปลายข้าวในอัตราส่วนของซิงค์ฟอสไฟด์
1 ส่วนกับปลายข้าว 100 ส่วน โดยน้ำหนักเป็นเหยื่อพิษ
หรือใช้สารซิลมูรินผสมกับปลายข้าวในอัตราส่วนของซิลมูริน 1 ส่วนกับปลายข้าว 20
ส่วน โดยน้ำหนักเป็นเหยื่อพิษ
นำเหยื่อพิษชนิดใดหนึ่งที่กล่าวแล้วไปวางตามร่อยรอยที่พบตามคันนาหรือตามรูหนูที่พบในปริมาณ
1 ช้อนโต๊ะทุกๆ ระยะ 5 – 10 เมตร
ควรใช้กลบคลุมเหยื่อพิษที่วางเพื่อป้องกันความชื้นและล่อให้หนูมากินเหยื่อพิษมากขึ้น
การใช้สารเคมีกำจัดหนูก่อนการปลูกข้าวไร่นี้นอกจากจะช่วยลดจำนวนประชากรของหนูได้โดยตรงแล้ว
ยังช่วยป้องกันไม่ให้ข้าวไร่ที่จะหยอดเสียหายจากหนูได้
การป้องกันกำจัดโดยไม่ใช้สารเคมี
การป้องกันกำจัดโดยไม่ใช้สารเคมี
1. การขุดรูหนู
2. การดักหนู
โดยใช้กับดักหรือกรงดักก็จะช่วยในการกำจัดหนูได้อีกวิธีหนึ่ง
3.
การปรับปรุงสภาพแวดล้อมตามบริเวณข้าวไร่เกษตรกรควรปรับปรุงคันนาไม่ให้เหมาะสมกับการที่หนูจะเข้ามาขุดรูอยู่อาศัย
โดยไม่ทำคันนาให้ใหญ่มากนัก หรือกำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้หนูมีที่หลบซ่อน
4.
การรักษาศัตรูธรรมชาติไว้ช่วยปราบหนู เกษตรกรมักจะทราบ
กันดีแล้วว่างูชนิดต่างๆ เช่น งูเห่า งูทางมะพร้าว งูสิง ฯลฯ พังพอน เหยี่ยว นก
แสก นกเค้าแมว นกฮูก เป็นศัตรูธรรมชาติที่ช่วยกำจัดหนู ดังนั้นการรักษา
ศัตรูธรรมชาติเหล่านี้ไว้จะช่วยในการกำจัดหนูศัตรูข้าวไร่ได้ดีอีกด้วย ใน
บริเวณข้าวไร่ก็ควรจะทำคอนจากกิ่งไม้ทางมะพร้าวหรืออื่นๆ ไว้ให้นกที่หากิน
กลางคืนเกาะ เช่น นกแสก นกฮูก จะช่วยให้นกเหล่านี้มีโอกาสกำจัดหนูได้
ง่ายขึ้น
กันดีแล้วว่างูชนิดต่างๆ เช่น งูเห่า งูทางมะพร้าว งูสิง ฯลฯ พังพอน เหยี่ยว นก
แสก นกเค้าแมว นกฮูก เป็นศัตรูธรรมชาติที่ช่วยกำจัดหนู ดังนั้นการรักษา
ศัตรูธรรมชาติเหล่านี้ไว้จะช่วยในการกำจัดหนูศัตรูข้าวไร่ได้ดีอีกด้วย ใน
บริเวณข้าวไร่ก็ควรจะทำคอนจากกิ่งไม้ทางมะพร้าวหรืออื่นๆ ไว้ให้นกที่หากิน
กลางคืนเกาะ เช่น นกแสก นกฮูก จะช่วยให้นกเหล่านี้มีโอกาสกำจัดหนูได้
ง่ายขึ้น
วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557
เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนา
เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนา
เครื่องมือทำนาแบบดั้งเดิมจะมีลักษณะคล้ายกันในแทบทุกภาค
โดยจะแตกต่างกันบ้างในวัสดุที่ทำจากท้องถิ่น
การตกแต่งลวดลายและมีชื่อเรียกแตกต่างกัน
หรืออาจมีเครื่องมือที่มีลักษณะเฉพาะที่นิยมใช้แต่ในภูมิภาคเท่านั้น
เราสามารถแบ่งเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนาออกเป็นเครื่องมือพื้นบ้านและเครื่องมือแบบสมัยใหม่
1.เครื่องมือพื้นบ้าน
เครื่องมือในระยะก่อนการเพาะปลูก
ไถ เครื่องมือที่ใช้พรวนดินก่อนการปลูกข้าว
กลับหน้าดินเพื่อทำให้ดินร่วนซุย ไถแบ่งออกเป็น 2
ชนิด คือ ไถวัว ซึ่งเป็นไถที่ใช้แรงงานวัวและไถควายซึ่งเป็นไถที่ใช้แรงงานควายไถ
แอก เครื่องมือที่ใช้สำหรับสวมคอควายเพื่อที่จะไถ
แอกมี2 ชนิดคือแอกวัวควายคู่กับแอกควายเดี่ยว
คราด เครื่องมือที่ใช้สำหรับคราดดินให้ร่วนซุย
คราดมี 2 ชนิดคือ คราดวัวควายคู่และคราดควายเดี่ยว
จอบ เครื่องมือสำหรับดายหญ้า พรวนดิน และเตรียมดิน
ก๋วยกล้า เครื่องมือที่ใช้สำหรับใส่กำกล้าหรือขนย้ายสิ่งของ
มักใช้ทางภาคเหนือ
ตอก เครื่องมืออีกชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับตอกมัดฟ่อนหรือกำกล้า
มีอยู่ 2 ชนิด คือตอกมัดฟ่อนข้าวกับตอกมัดกำกล้าไม้
หาบกล้า(บางถิ่นเรียก คันหลาว) ใช้หาบต้นกล้าเพื่อนำไปปักดำ
ม้าหาบข้าว ใช้ในการเรียงต้นกล้าหรือฟ่อนข้าวในคันหลาว
เครื่องมือเครื่องใช้ในช่วงเก็บเกี่ยว
เคียว เครื่องมือเกี่ยวข้าวมีรูปโค้ง 2
ชนิด คือเคียวงอกับเคียวลา
แกระ/ แกะ เครื่องมือเกี่ยวข้าวที่ใช้เก็บรวงข้าว
นิยมใช้ในภาคใต้
คันหลาว ใช้หาบฟ่อนข้าวจากนาไปลานนวด
หรือใช้หาบกำกล้าไปปักดำ
ไม้หนีบ ใช้หนีบฟ่อนข้าวเพื่อยกข้าวฟาดลงบนลานหรือไม้รองในไม้ฟาดข้าว
การนวดข้าว ใช้มากทางภาคอีสานม้ารองนวดข้าว
ม้ารองนวดข้าว เอาไว้ใช้สำหรับรองรับฟ่อนข้าวเพื่อนวดหรือฟาดเพื่อตี
เมล็ดข้าวจะได้หลุดร่วง
ไม้ข้าวนวดสนnใช้วางคันหลาวเพื่อนวดข้าว
ใช้ไม้นวดสนุตีข้าวที่เหลืออยู่ในมัดฟาง
ฟอยหนาม ใช้กวาดเศษฝุ่นและเศษฟางออกจากกองข้าว
พัดวี ใช้สำหรับพัดฝุ่นผงและข้าวลีบให้ออกจากกอข้าวเปลือก
คราด ใช้คราดกวาดขยะมูลฝอยและเกลี่ยดินเพื่อทำลานนวดข้าว
ตะกร้า เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับใส่ข้าวเปลือก
ข้าวสาร ตักตวงข้าวหรือใส่สิ่งของอื่น ๆ
เครื่องมือในการแปรรูปข้าว
ครกซ้อมมือ ใช้สำหรับตำข้าวเปลือก
จากข้าวเปลือกเป็นข้าวกล้อง จากข้าวกล้องเป็นข้าวสาร
ครกกระเดื่อง ใช้ตำขาวโดยใช้ปลายเท้าเหยียบกระเดื่องให้สากกระดกขึ้นลง
กระด้ง ใช้ฝัดร่อนข้าวเอาเศษผงฝุ่นแกลบออกจากเมล็ดข้าว
ตะแกรง ใช้สำหรับร่อนแยกเศษฟางออกจากเมล็ดข้าว
2.เครื่องมือทำนาแบบสมัยใหม่
เครื่องมือเครื่องใช้ในระยะเตรียมดิน
รถไถนา ใช้ได้ทั้งเตรียมดินนาหว่านและนาดำและคราด
รถแทรกเตอร์ เครื่องเตรียมดิน ทำนา ทำสวน
ทำไร่หรือหักร้างถางพง
เครื่องปักดำ ใช้แทนการปักดำด้วยแรงงานคน
เครื่องมือชนิดนี้ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก
เครื่องสูบน้ำ
เครื่องสูบน้ำเข้านาโดยใช้เครื่องยนต์หรือไฟฟ้าเป็นแรง
หมุนมอเตอร์สูบจากแม่น้ำ คลองชลประทานมาใช้ในนา
เครื่องมือเครื่องใช้ในการเกี่ยวข้าว
-รถเกี่ยวและนวดข้าวใช้สำหรับเกี่ยวและนวดข้าวไปพร้อมๆ
กัน เป็น
-รถแบบตีนตะขาบวิ่งได้ในนาที่มีพื้นที่เรียบ
เครื่องนวดข้าว
ใช้เครื่องยนต์ในการนวดข้าวให้ย่อยจากรวงเป็นเมล็ดข้าวเปลือก
เมื่อต้องการนวดข้าว
ก็เอาเครื่องยนต์จากรถไถนาเดิมมาหมุนตามเครื่องนวดและสามารถใช้กระสอบหรือผืนผ้าใบมารองรับเมล็ดจากเครื่อง
เครื่องมือเครื่องใช้ในการแปรรูปข้าว
-เครื่องสีข้าวใช้สำหรับสีข้าวเปลือกให้เป็นข้าวสารและออกมาเป็นแกลบและรำ
วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
โรค
ชื่อโรค/โรคข้าวไร่และการป้องกันกำจัด
2.1.1 ธาตุไนโตรเจน เป็นธาตุที่สำคัญในการเจริญเติบโตของต้นข้าว ข้าวที่ขาดธาตุไนโตรเจน ใบอ่อนจะมีสีเขียวซีดเริ่มจากปลายใบเข้ามา ส่วนใบแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วเป็น สีน้ำตาล ในที่สุดจะแห้งตายไป ต้นข้าวจะมีลักษณะแคระแกร็น แตกกอน้อยใบข้างจะแคบเล็กและบาง เมื่อพบอาการดังกล่าวมาแล้วในแปลงข้าว ควรจะรีบทำการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนโดยทันที
โรคข้าวไร่ที่พบระบาดทั่วไปในปัจจุบัน เกิดจากสาเหตุใหญ่ 2 ประการด้วยกัน คือ
1. โรคที่เกิดจากเชื้อ
1. โรคที่เกิดจากเชื้อ
1.1 เชื้อรา
1.1.1 โรคไหม้
1.1.2 โรคใบขีดสีน้ำตาล
1.1.3 โรคใบจุดสีน้ำตาล 1.1.4 โรคใบวงสีน้ำตาล
1.2 เชื้อแบคทีเรีย
1.2.1 โรคขอบใบแห้ง
1.3 เชื้อไวรัสและ/หรือไฟโตพลาสมา
1.3.1 โรคใบสีแสด
1.4 ไส้เดือนฝอย
1.4.1 ไส้เดือนฝอยรากปม
2. โรคไม่มีเชื้อ
2.1 สิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม
2.1.1 อุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป
2.1.2 สภาพ ดิน น้ำ และอากาศเป็นพิษ
2.1.3 ความสูงจากระดับน้ำทะเลสูงหรือต่ำเกินไป
2.1.4 ความลึกของหน้าดินตื้นเกินไป
2.2 การขาดธาตุอาหารที่สำคัญ
1. โรคที่เกิดจากเชื้อ
1. โรคที่เกิดจากเชื้อ
1.1 เชื้อรา
1.1.1 โรคไหม้
1.1.2 โรคใบขีดสีน้ำตาล
1.1.3 โรคใบจุดสีน้ำตาล 1.1.4 โรคใบวงสีน้ำตาล
1.2 เชื้อแบคทีเรีย
1.2.1 โรคขอบใบแห้ง
1.3 เชื้อไวรัสและ/หรือไฟโตพลาสมา
1.3.1 โรคใบสีแสด
1.4 ไส้เดือนฝอย
1.4.1 ไส้เดือนฝอยรากปม
2.1 สิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม
2.1.1 อุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป
2.1.2 สภาพ ดิน น้ำ และอากาศเป็นพิษ
2.1.3 ความสูงจากระดับน้ำทะเลสูงหรือต่ำเกินไป
2.1.4 ความลึกของหน้าดินตื้นเกินไป
2.2 การขาดธาตุอาหารที่สำคัญ
2.1.1 ธาตุไนโตรเจน เป็นธาตุที่สำคัญในการเจริญเติบโตของต้นข้าว ข้าวที่ขาดธาตุไนโตรเจน ใบอ่อนจะมีสีเขียวซีดเริ่มจากปลายใบเข้ามา ส่วนใบแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วเป็น สีน้ำตาล ในที่สุดจะแห้งตายไป ต้นข้าวจะมีลักษณะแคระแกร็น แตกกอน้อยใบข้างจะแคบเล็กและบาง เมื่อพบอาการดังกล่าวมาแล้วในแปลงข้าว ควรจะรีบทำการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนโดยทันที
ในกรณีที่ธาตุไนโตรเจนมีมากเกินไป ต้นข้าวจะแตกกอมาก ต้นข้าวจะสูง ลำต้นอ่อนแอ ข้าวจะแก่ช้า และข้าวจะล้มง่าย นอกจากนี้ยังถูกแสงแดดหรือความแห้งแล้งทำความเสียหายให้โดยง่ายอีกด้วย
2.1.2 ธาตุฟอสฟอรัส เป็นธาตุอาหารที่สำคัญในการสร้างระบบรากของต้นข้าว และในระยะแรกของการเจริญเติบโตของต้นข้าว ต้นข้าวที่ขาดธาตุฟอสฟอรัสใบจะมีสีเขียวเข้มใบเล็กและเรียวและตั้งตรง รากจะไม่ขยายเช่นปกติ
2.1.3 ธาตุโพแทสเซียม มีความสำคัญในการสร้างลำต้นของข้าวและเปลือก การแตกกอน้อย
2.1.2 ธาตุฟอสฟอรัส เป็นธาตุอาหารที่สำคัญในการสร้างระบบรากของต้นข้าว และในระยะแรกของการเจริญเติบโตของต้นข้าว ต้นข้าวที่ขาดธาตุฟอสฟอรัสใบจะมีสีเขียวเข้มใบเล็กและเรียวและตั้งตรง รากจะไม่ขยายเช่นปกติ
2.1.3 ธาตุโพแทสเซียม มีความสำคัญในการสร้างลำต้นของข้าวและเปลือก การแตกกอน้อย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)