2.การปลูกข้าวนาหว่าน(นาปี) มีวิธีการทำได้หลายวิธี เช่น
การปลูกแบบหว่านแห้ง (ไถก่อนแล้วหว่าน) หลังจากที่เกษตรกรไถดะ(ใช้รถไถไถ)แล้วก็จะหว่านเมล็ดแห้งเลย เมล็ดข้าวที่หว่านจะตกลงไปอยู่ตามซอกก้อนดิน เกษตรกรบางรายที่มีแรงงาน
อาจจะคราดกลบอีกครั้งหนึ่ง แต่บางรายก็ไม่มีการคราดกลบ
ในแหล่งที่สามารถระบายน้ำเข้าได้ ให้ระบายเข้าช้าๆ ถ้าระบายเร็วเกินไป
เมล็ดจะลอยไปอยู่ ปลายน้ำหมด
การปลูกแบบไถหว่านหลังขี้ไถ (ขี้ไถคือ ขึ้นที่ฟูขึ้นมาไม่ใช่ล่ง)ในบางครั้งหลังจากที่ไถดะแล้ว ฝนมาเร็วไม่สามารถไถแปรและคราดได้ทันก็อาจจะเอาเมล็ดข้าวแห้งมาหว่านบนหลังขี้ไถได้เลยแต่เมล็ดพันธุ์อาจได้รับความเสียหายจากนก หนูมาก
การปลูกแบบไถหว่านหลังขี้ไถ (ขี้ไถคือ ขึ้นที่ฟูขึ้นมาไม่ใช่ล่ง)ในบางครั้งหลังจากที่ไถดะแล้ว ฝนมาเร็วไม่สามารถไถแปรและคราดได้ทันก็อาจจะเอาเมล็ดข้าวแห้งมาหว่านบนหลังขี้ไถได้เลยแต่เมล็ดพันธุ์อาจได้รับความเสียหายจากนก หนูมาก
การปลูกข้าวแบบหว่านเทือกหรือหว่านข้าวงอกหรือการทำนาหว่านน้ำตมแผนใหม่(นาปรัง)
วิธีการเตรียมดินต่อเมื่อทำเทือกหรือปรับเทือกให้เสมอกันครั้งสุดท้ายแล้ว ต้อง
ปล่อยน้ำออกให้แห้ง จากนั้นให้ชักร่องหรือทำร่องให้เป็นแปลงย่อย ที่มีความกว้าง 3-4 เมตร เพื่อให้เทือกแห้งดียิ่ง
ขึ้นเสร็จแล้วนำข้าวงอกที่เตรียมไว้แล้ว มาหว่านลงในแปลงย่อย ๆ นั้น
การปลูกข้าวแบบหว่านข้าวงอก หรือการปลูกแบบนาหว่านน้ำตม ในพื้นที่บางแห่งเป็นที่ลุ่มไม่สามารถ
ระบายน้ำออกได้และบางแห่งดินเปรี้ยวด้วย เตรียมดินเหมือนกับทำนาดำแล้วทิ้งไว้ตกตะกอนเพื่อให้น้ำที่ขังอยู่นั้นใส ในระหว่างที่ตกตะกอนนั้นให้รีบหว่านข้าวงอกลงไป เมล็ดข้าวซึ่งหนักกว่าตะกอนจะตกถึงผิวดินก่อน และตะกอน
นั้นจะตกลงไปทับเมล็ดข้าวอีกทีหนึ่งทำให้น้ำไม่สามารถพัดพาเมล็ดข้าวงอกลอยไปที่อื่นได้ เมื่อตะกอนตกหมดแล้ว น้ำจะใส ทำให้เมล็ดข้าวได้รับแสงแดดที่ผ่านน้ำลงไป ข้าวก็จะเริ่มงอกและเจริญเติบโตต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น